Credit : จากอินเตอร์เน็ต
เสน่ห์ยาแฝด ใครอยากลอง "ต้องอ่าน"
คำสอนจาก ปู่ฤาษี เรื่อง “เสน่ห์ยาแฝด" สำหรับผู้มีความคิดอยากลอง.....(ยาวหน่อยแต่มีประโยชน์)
ฉันกับแฟนคบกันมา 4 ปี มีโครงการจะแต่งงานกันสิ้นปีนี้ แต่แล้วจู่ ๆ เค้าก็มาบอกว่า “เราเลิกกัน” “เค้าไม่ได้รักฉันแล้ว ตอนนี้เค้าพบคนใหม่ ตลอดเวลาเค้าหลอกฉันมาตลอดว่ารัก เค้าจะแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่สิ้นปีนี้”
ฉันทำทุกวิถีทางเพื่อจะฉุดรั้งเค้ากลับมา ฉันถามว่าฉันผิดตรงไหน ไม่ดีตรงไหน ฉันจะปรับ...ปรุงตัวใหม่ เค้าต้องการอะไรฉันทำให้ได้ทุกอย่างและยอมทุกอย่าง ขอเพียงแค่ “กลับมาเหมือนเดิม” แต่สิ่งที่ฉันได้รับคือความเฉยชา,หงุดหงิด,รำคาญ ทำอะไรก็ผิดไปหมด
“เพื่อน” แนะนำฉันให้ “ไปทำเสน่ห์” ปกติฉันเป็นคนที่กลัวเรื่องพวกนี้ไม่อยากยุ่งเกี่ยว ไม่อยากเข้าใกล้ แต่….ณ จุดจุดนี้ ไม่ได้แล้ว ความรักบังตาฉันยอมทุกอย่าง ขอเพียงได้เค้ากลับคืน อะไรก็ได้สำหรับฉัน ณ ตอนนี้
“ปู่ฤาษี” คือผู้ที่เพื่อนฉันพาไปหา เพื่อนบอกว่า “ท่านเก่ง ญาติของเพื่อน สามีหนีไปอยู่กับเมียน้อยท่านก็เป็นคนเรียกกลับมา ทุกวันนี้ทั้งรักทั้งหลงภรรยา ไม่ไปมีใหม่อีกเลย”
บ้านปูนชั้นเดียว มีลานจอดรถที่พอจอดรถยนต์ได้ประมาณ 10 คัน วันแรกที่ฉันไปมีรถยนต์จอดอยู่ 3 คัน มองเข้าไปในบ้านมีคนนั่งจนล้นออกมาข้างนอกมีเสียงหัวเราะดังออกมาเป็นระยะ เพื่อนพาฉันเข้าไป ภาพที่ฉันเห็น “ชายหนุ่มอายุน่าจะประมาณ 28 – 29 ปี ผมยาวมีลายสักเต็มตัว นัยต์ตาหวานเยิ้ม มือคีบบุหรี่พูดไป ยิ้มไป ปล่อยมุกสนุกสนาน ทำให้ผู้ที่เข้ามาหาหัวเราะเป็นระยะ ๆ นุ่งชุดลายเสือ ดูดีมีเสน่ห์ “ คนนี้เรอะที่เพื่อนบอกว่าเป็นปู่ฤาษี ทำไมยังหนุ่ม แต่ ณ วินาทีนั้นความรักบังตาไม่ได้คิดอะไร เพื่อนบอกว่าดี ฉันก็เชื่อโดยที่ไม่ได้คิดถึงเหตุการณ์ในวันข้างหน้าเลย
เราสองคนนั่งรออยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง คนที่เข้ามาล็อคแรกก็ออกไป ถึงคิวของฉัน เพื่อนแต่งขันธ์ห้า (ดอกไม้ 5 คู่ เทียน 5 คู่) พร้อมเงิน 100 บาท ให้ฉันเขียนชื่อ-นามสกุล พร้อมที่อยู่ ของฉันและของแฟน ยื่นให้ปู่ฤาษี
(เอ่ยชื่อฉัน) ดวงไม่ดี จะถูกแย่งของรัก ……. (เอ่ยชื่อแฟน) คนนี้เป็น
แฟนใช่มั๊ย”
ใช่ค่ะ” ฉันตอบ
“มีอะไรจะถาม” ท่านถามฉัน
เงียบ ……ฉันก็ไม่รู้จะถามอะไร
เพื่อนหันมาสะกิด “ตอบไปซิ”
ก็ไม่รู้จะตอบอะไร……….
ท่านนั่งหลับตาสวดคาถาประมาณ 5-10 คำ แล้วหันมาถาม “ รักเค้ามาก ตอนนี้ใจเศร้าหมอง
มีแต่คิดจะฆ่าตัวตาย ………อยากได้เค้ากลับมามั๊ย” ท่านหันมาถาม
“อยากได้ค่ะ” ฉันตอบ
“ถ้าอยากได้คืน จะช่วย แต่จะต้องจ้างน่ะ มีเงินเท่าไหร่”
“สองพันค่ะ”
ท่านหลับตาสักพัก “ไม่ใช่หรอก ในกระเป๋าตังค์มีเงิน ห้าพันบาท ในสมุดบัญชีมีเงินอีก 3
หมื่น
ฉันตกใจ ท่านรู้ได้อย่างไง
“ถ้าอยากได้คืน ปู่คิดค่าจ้าง 3 หมื่น”
“ตกลงค่ะ” ฉันตอบตกลง
“จะบ้าเหรอ…..3 หมื่นน่ะแก ไม่คิดก่อนหรือไง” เพื่อนฉันตกใจรีบหันมาถามฉัน
แต่สำหรับฉันตอนนี้อะไรก็ไม่สำคัญเท่าการได้แฟนกลับคืนมา
ปู่ฤาษี มองหน้ายิ้ม ๆ “ให้ไปเอา……………………………..” ท่านสั่งให้ฉันนำสิ่งของมา
มาเข้าพิธี
รุ่งขึ้น เดินทางไปหาปู่ฤาษี ไปถึงก็มีคนมารอท่านเต็มอาศรมไปหมด
รายแรก….มากันประมาณ 5-6 คน แต่งขันธ์ 5 จานเดียวใส่เงิน 100 บาท แต่มีรายชื่อในกระดาษประมาณ 10 ชื่อได้ ท่านรับขันธ์ 5 ไป หลับตาสวดมนต์ ดูให้ทีละคน การทำนายของท่านแม่นเหมือนตาเห็น ท่านจะทักเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยก่อนว่า เป็นลักษณะไหนอยู่ตรงไหนมีอะไรเป็นจุดเด่น (มาทราบภายหลังว่าท่านไม่ได้ดูจากวันเดือนปีเกิด แต่จะส่งจิตไปยังบ้านที่เราอาศัยอยู่เพื่อไปตรวจสอบยังสถานที่ ท่านจึงต้องถามว่าสถานที่ที่ท่านไปถูกต้องหรือไม่) ท่านจะทักแต่ละคนตามรายชื่อที่เขียนไป จนกระทั่งไปสะดุดที่ชื่อของลูกสาวของคนที่มาดู “มันหนีออกจากบ้านไปใช่มั๊ย” (จริง ๆ แล้วท่านจะพูดเป็นภาษาอีสาน แต่ว่าฉันแปลเป็นภาษาภาคกลางให้เพื่อจะได้เข้าใจ)
“ใช่จ๊ะ” คนเป็นแม่พูด น้ำตาเริ่มไหล
ท่านหลับตาสวดมนต์สัก 5-10 คำ “ มันหนีไปกับผู้ชายตอนนี้มันอยู่ กาฬสินธ์ อยู่บ้านเค้า”
“ปู่ช่วยหน่อย ตามมันกลับมาให้หน่อย” แม่พูดไปพร้อมเช็คน้ำตา ฉันเองก็พาลจะน้ำตาไหลตามไปด้วย
ท่านสวดมนต์สักพัก “เออ….ปู่จะช่วย วันจันทร์มันจะกลับมา พอมันมาแล้วให้พามันมาหาปู่……..” ท่านพูดปลอบใจเขาสักพักแล้วก็เริ่มสอนให้เข้าใจถึงวิถีชีวิตของมนุษย์เป็นคำสอนตามแบบของศาสนา จนพ่อแม่ของน้องผู้หญิงผ่อนคลายหายเศร้าท่านจึงให้กลับ
รายที่ สอง เป็นชาวบ้านมาประมาณ 4-5 คน รายนี้ภรรยาหนีตามชู้ไป ทิ้งสามีกับลูกสองคน สามีเค้ารักภรรยามาก อยากได้ภรรยาคืน ฤาษีท่านดูไปแล้วทักว่า ภรรยาของแกหนีตามผู้ชายข้างบ้านไป ผู้ชายคนนั้นก็มีภรรยาแล้วใส่เสน่ห์ภรรยาของแกด้วย พอท่านพูดถึงตรงนี้ ผู้หญิงที่มาด้วยบอกว่าเป็นสามีของแกเอง ปู่จึงหันมาถามว่าจะเอาคืนด้วยหรือ ฝ่ายหญิงตอบว่าไม่เอา ปู่จึงหันไปถาม ฝ่ายชายว่าจะเอาคืนจริง ๆ หรือ ไม่รังเกียจเค้าหรือที่เค้าทำแบบนี้ โกรธเค้าไหม เกียจเค้ามั๊ย ซึ่งฝ่ายชายก็ยืนยันคำเดียวว่าจะเอาคืน ท่านถามซ้ำ 3 ครั้ง ฝ่ายชายก็ยังยืนยันคำเดิม ท่านรับปากว่าจะช่วยแล้วให้บูชาของสิ่งหนึ่งไป เรียกเก็บเงิน 500 บาท
ฉันเริ่มสงสัย เอ…ทำไมของฉัน 3 หมื่น ส่วนของคนนี้แค่ 500 บาท แต่ก็ยังไม่ได้ถามตอนนั้น
รายที่ 3 เป็นคุณยาย พาหลานสาวมากราบท่าน บอกว่าเป็นคนนี้ที่หนีออกจากบ้านแล้วให้ท่านตามมาให้ กลับมาแล้วตามที่ท่านบอก ท่านเรียกน้องผู้หญิง (อายุประมาณ 16-17 ปี) เข้ามานั่งต่อหน้าท่านแล้วเริ่มสอน ซึ่งคำสอนของท่านฉันฟังแล้วน้ำตาแทบไหล…..
“เห็นหน้ายายมั๊ย แกเสียใจขนาดไหน เค้าเลี้ยงเรามากี่ปี แต่ผู้ชายอีกคนพึ่งเจอกันไม่เท่าไหร่ ทำไมถึงทุ่มเททุกอย่างให้เค้าได้ขนาดนั้น ยายเค้าเสียใจขนาดไหนเห็นมั๊ย (คุณยายเริ่มเช็ดน้ำตา) ที่ปู่ช่วยไม่ได้อยากช่วยเราน่ะ ปู่สงสารยายของเราถึงได้ช่วยเรียกกลับมา……………………….” ท่านสอนอยู่นานพอควร
เกือบบ่าย 2 ถึงคิวฉันซะที ท่านหันมายิ้ม “เดี๋ยวจะทำน้ำมนต์ให้อาบ”
ท่านให้ฉันอาบน้ำมนต์โดยท่านเป็นผู้ปลุกเสก จะมีผู้ชายอีกคนเป็นคนอาบให้ ในระหว่างที่อาบเค้าก็จะสวดคาถาไปด้วย …..หลังจากอาบน้ำมนต์เสร็จ ท่านก็ให้นำของที่เตรียมมาให้ ทำพิธีอยู่ประมาณ 10 นาที หลังเสร็จพิธีท่านผูกแขนให้ฉันแล้วสั่งให้ฉันปฏิบัติตามคำสั่ง
1. ทุกวันตอนเย็น ให้ฉันเดิน 999 ก้าว โดยให้นับทีละก้าวห้ามนับผิด หากนับผิดหรือไม่แน่ใจให้เริ่มนับใหม่
2. ก่อนนอนให้สวดมนต์ 99 จบ
3. ให้คุยกับ คุณพ่อหรือคุณแม่ทุกวัน เล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟังให้หมด ห้ามปิดบังและโกหก
4. ไม่ให้รับรู้หรือพูดคุยกับแฟนโดยเด็ดขาด ภายใน 15 วัน หากผิดคำสัญญาจะต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่จนกว่าจะครบ 15 วัน
ท่านให้ฉันปฏิบัติอยู่ 15 วันแล้วให้กลับมาหาท่านใหม่ ซึ่งท่านสัญญาว่าภายใน 15 วัน หากฉันทำได้ตามคำสั่งแฟนของฉันจะกลับมาหาฉันแน่นอน ฉันรับปาก และเริ่มปฏิบัติตามที่ท่านสั่งไว้……เวลาเริ่มผ่านไปจากวันที่หนึ่ง เป็นวันที่สอง วันที่สาม วันที่สี่ วันที่ห้า…….วันที่สิบห้า
…..วันที่ 15 ครบจำนวนวันที่ท่านสัญญาไว้ ฉันเดินทางไปหาท่านแต่เช้า…….
“เป็นไง…..รู้สึกดีขึ้นบ้างหรือเปล่า” ท่านถาม
“ค่ะ สบายใจขึ้น มากแล้วค่ะ”
“รักเค้ามากเลยหรือ” ท่านถาม
“ค่ะ”
“ได้โทรหาแม่ทุกวันหรือเปล่า”
“โทรค่ะ”
“แม่ว่าไง เค้าเสียใจมั๊ย”
“แม่ไม่ว่าอะไรค่ะ ท่านจะคอยปลอบใจ แล้วท่านก็เสียใจมากค่ะ”
“แม่เสียใจ แล้วเราเสียใจมั๊ย”…..ฉันเงียบ เริ่มคิด “เสียใจค่ะ”
“ตอนเราร้องไห้ แม่เค้าว่าไง”
“……แม่เค้าก็ร้องไห้ค่ะ….”
“รักแม่มั๊ย”
“รักค่ะ”
“ใครทำให้เราเสียใจ ใครทำให้เราเป็นแบบนี้ ผู้ชายคนนั้นใช่มั๊ย”…….ฉันนั่งนิ่ง น้ำตาเริ่มไหล…….
“ทำงานมาเคยให้เงินแม่บ้างมั๊ย….เวลาไปตลาดเห็นกับข้าวเคยจำได้มั๊ยว่าแม่ชอบกินอะไร จำได้หรือเปล่าว่าตัวเราชอบกินอะไร……………ทุกวันนี้กับข้าวที่ซื้อมากินเป็นที่เราชอบหรือเป็นที่ผู้ชายคนนั้นชอบ……..ทำไมต้องให้เค้ามามีอิทธิพลอยู่เหนือตัวเองขนาดนั้น เค้าทิ้งเราไปเพราะอะไร…….ตอบได้มั๊ย”
“…….เค้าไปมีคนใหม่ค่ะ”
“ทำไมเค้าไปมีคนใหม่”
“……ไม่ทราบค่ะ” ฉันตอบไปพลางเช็คน้ำตา
“เพราะสันดาน……เข้าใจคำว่าสันดานมั๊ย คนดี จะคิดดี ทำดี พูดดี คนไม่ดี ความคิดมันก็เลวไปด้วย อยากจะทุกข์ทรมารอยู่แบบนี้ไปตลอดชีวิต ก็จะเอามันคืนให้ แต่ถ้าอยากจะมีความสุข ไม่อยากให้แม่เสียใจ มีชีวิตที่ดี เจอคนดี ๆ ก็เลิกกับมันซะ ปู่ไม่เคยเห็นใครตายเพราะอกหัก แต่ที่คนมันตายก็เพราะมันสิ้นคิด เพราะแพ้ใจตัวเอง ใจอ่อนแอ ถ้าไม่คิดไม่นำจิตไปวางไว้กับมัน มันก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นเอง บังคับตัวบังคับกายมันทำได้ แต่การบังคับใจถ้าไม่แกร่งจริงมันก็ยาก แต่ใจมันเป็นของเราถ้าเรายอมแพ้มัน เราก็จะแพ้ไปตลอดชีวิต ถ้าเราเคยเอาชนะมันได้บังคับมันได้ เราก็จะไม่มีทุกข์ ไม่มีใครช่วยเราได้หรอกหมอที่ไหนก็รักษาให้ไม่ได้ มีแต่ตัวเรากับเวลาเท่านั้นที่ช่วยตัวเราได้……สิบห้าวันผ่านมาเป็นไงบ้าง”
“ไม่ได้คิดอะไร ก็รู้สึกดีค่ะ”
“ทำต่อไปน่ะ ตัดใจซะ มันทำไม่ได้ทันทีหรอกแต่มันจะค่อย ๆ ดีขึ้น คิดถึงแม่ไว้ให้มาก ๆ ไม่สบายใจอะไรก็เล่าให้เค้าฟัง ให้มีสติ อย่าไปจดจ่ออยู่กับมัน 15 วันผ่านมาไม่มีเค้าเราก็อยู่ได้ ไม่เห็นจะตายไม่ใช่หรือ ตัดใจซะเอาสมาธิไปจดจ่ออยู่กับสิ่งอื่น อย่าไปใส่ใจกับมัน คนมันไม่ดีก็ปล่อยมันไปตามวิถีชีวิตของมัน……..”
ปู่ฤาษี หันไปหยิบของในย่าม เป็นเงิน 3 หมื่นบาท ยื่นคืนให้ฉัน
“เงิน 3 หมื่น ปู่ไม่เอาหรอก ให้เอาไปเก็บไว้ 2 หมื่น เอาให้แม่ 5 พัน อีก 5 พัน ไปซื้อเสื้อผ้า เครื่องสำอาง แต่งตัวใหม่ให้ดูดีกว่านี้” พูดจบแกก็หัวเราะ
“จำคำปู่ไว้ อย่าเชื่อใจคน อย่ามองเพียงแค่ภายนอก แล้วอย่าไปทำเสน่ห์ที่ไหนอีก ทุกคนมีเสน่ห์อยู่ในตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่เสน่ห์ที่เรามีจะถูกใจใครเท่านั้น พวกนุ่งผ้าเหลือง ผ้าขาว บางคนสักแต่เอาผ้ามาห่ม แต่ใจมันไม่ใช่คน เราเป็นผู้หญิงต้องระวังตัวให้ดี ถ้าเจอคนดีก็ดีไป ถ้าเจอพวกไม่ดีเราจะเสียทั้งตัว เสียทั้งเงิน เสียทั้งใจ จะไปโทษใครบอกใครก็ไม่ได้ เราโง่เอง …หยุด…ห้ามไปทำเสน่ห์ที่ไหนอีก จำคำปู่ไว้ให้ขึ้นใจ วันนี้แฟนเราจะมาหา ก็ตัดสินใจเอาก็แล้วกัน”
ฉันกลับที่พัก เริ่มนั่งคิดทบทวน เรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมา ความเจ็บปวดที่เคยมี ทุกครั้งฉันแทบจะทนไม่ได้ถ้าคิดถึงเค้า แต่ตอนนี้ทำไมความเจ็บปวดมันลดลง เริ่มมองเห็นสิ่งต่าง ๆที่ผ่านมา จิตใจที่เคยอ่อนแอ มันเริ่มแข็งแรงตั้งแต่เมื่อไหร่ฉันไม่รู้ น้ำตาที่เคยไหลไม่หยุดหากเมื่อไหร่ที่คิดถึงเค้า ทำไมมันหายไปไหน คำสอนของปู่ก้องอยู่ในสองหู ฉันตัดสินใจ…..จากนี้ต่อไปฉันต้องเข้มแข็ง
………..เสียงเคาะประตูหน้าห้อง…..
“ใครค่ะ” ฉันถาม
“เราเอง” เหมือนที่ปู่บอกไว้ไม่ผิด เค้ามาจริง ๆ ใจที่เคยเด็ดเดี่ยวเมื่อครู่หายไปไหนหมด หัวใจเต้นแรง ใจเริ่มอ่อน เริ่มหวั่นไหว……..
“มีธุระอะไร” ฉันไม่ยอมเปิดประตู
“…..เราคิดถึง…..เปิดประตูให้เราหน่อย” …….ฉันเริ่มสับสน น้ำตาเริ่มไหล จะทำไงดี…คิดถึงคำพูดของปู่ฤาษี คิดถึงหน้าแม่…….
“กลับไปก่อนน่ะ วันนี้เรายังไม่อยากคุย ตอนนี้เราอยู่กับแม่ กลับไปเถอะ” ฉันโกหกเพราะรู้ว่าตัวเองยังไม่เข้มแข็งพอ หากเจอเค้าวันนี้ฉันต้องใจอ่อนแน่นอน
ทุกวันนี้ฉันฝากตัวเป็นศิษย์ของท่าน ปู่ฤาษี ผู้ให้ชีวิตใหม่แก่ฉัน ถ้าไม่มีท่านฉันก็ไม่รู้ว่าชีวิตของฉันจะต้องพบเจออะไร อาจจะเจอสิ่งที่เลวร้าย เจอพวกซาตานในคราบนักบุญ ต้องเสียทั้งตัว เสียทั้งใจ จึงอยากจะขอเตือนเพื่อน ๆ ที่คิดจะไปทำเสน่ห์ ให้ไตร่ตรองให้ดี ไม่ใช่ทุกคนจะโชคดีเหมือนฉันเสมอไปน่ะค่ะ
ขอขอบคุณเรื่องจริง จาก คุณวรรณวิสา...
(ข้อมูลจาก...ภัทรกัปป์ พุทธบุตร)
โดย : แก้กรรมจากคำทำนาย
เสน่ห์ยาแฝด ใครอยากลอง "ต้องอ่าน" ,ทำเสน่ห์, ปลอบใจคนอกหัก, หาคนปลอบใจ, หาที่พึ่ง, เสน่ห์ยาแฝด,เรื่องสั้นสอนใจ, นิทานสอนใจ,อุตทาหรณ์สอนใจ
วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556
วันอังคารที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2556
มูลค่าพ่อราคา 3.5 แสน .. อ่านแล้วน้ำตาคลอ
มูลค่าพ่อราคา 3.5 แสน .. อ่านแล้วน้ำตาคลอ
ผมย้ายมาอยู่ที่นี่ได้หลายปี เพื่อนบ้านก็ดี มีน้ำใจ ข้างบ้านรั้วติด กัน มีคุณลุงคนหนึ่ง เป็นข้าราชการบำนาญ เกษียณมาหลายปีแล้ว ภรรยาเสีย ตั้งแต่เรายังไม่ย้ายเข้ามา ลูกๆ ทั้ง 3 คน
ต่างก็แต่งงาน มีครอบครับ ไปอยู่ที่จังหวัดอื่นๆ กันหมด ลุงแกก็อยู่บ้านคนเดียว มาเกือบ 10 ปี เราได้รู้จักลุง ก็ได้เห็นในน้ำใจไมตรี เป็นคนใจดี อบอุ่น น่ารัก มีโรคประจำตัวตาม ประสาคนแก่
คือเบาหวาน ความดัน และเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ ไปตามปกติ
ด้วยความที่อยู่บ้านคนเดียว บางครั้งเจ็บป่วย ก็ลำบากหน่อย เพราะไม่มีลูกหลาน คอยช่วย เหลือ ช่วงเวลาหลายปี ที่ผ่านมา เราก็ได้มีโอกาสได้ช่วยเหลือ พาไปหาหมอ พาไปทำธุรต่างๆ และถ้า ป่วยหนัก ถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาล ก็จะช่วยโทรตามลูกๆ ของแกให้ ลูกๆ ก็จะมาเยี่ยมบ้าง ไม่มาบ้าง แล้วแต่โอกาส
แต่ !!! เรารู้ว่า คุณลุงเหงา !!!! บ่อยครั้งที่คุณลุงจะบ่นถึงคุณป้า ซึ่งเราไม่เคยเจอตัวจริง ได้เห็นแต่ในรูป เพราะ ท่านเสียไป หลายปีแล้ว ก่อนที่เราจะได้ย้ายมาอยู่ที่นี่
ช่วงเทศกาล ปีใหม่ สงกรานต์ เมื่อบ้านอื่นๆ เขามีลูกๆ มาเยี่ยม เราเห็นคุณลุงนั่งเหงาเพียงลำพัง เราก็ซื้อของขวัญ ของกิน ของใช้ บางครั้งก็เป็นพวก ผลไม้บ้าง เครื่องดื่มบ้าง ไปไหว้ ลุงก็ดีใจ ให้ศิลให้พร กันยกใหญ่ แล้ว!!!
ท่านก็ได้แต่ รำพึง รำพัน ถึงลูกๆ จนน้ำตาไหล ท่านได้แต่เฝ้ารอ นั่งมองแต่ ประตูหน้าบ้าน รอว่าเมื่อไร จะมีรถของลูกๆ กลับมาเยี่ยมบ้างในช่วงเทศกาล .. หลายปีมานี้ คุณลุงก็ได้แต่รอเจอเพียงแต่ความว่างเปล่า ไร้แม้แต่เงาข้างกายของคนที่เรียกลุงว่าพ่อ
เราก็ได้แค่ ปลอบ ว่าลูกๆ เขาคงติดธุระ วันไหนเขาว่าง ก็คงมาเยี่ยม ไม่ต้องคิดมาก เสียสุขภาพไปเปล่าๆ
ที่หลังบ้านคุณลุง มีต้นมะม่วงพันธุ์ดีอยู่หลายต้น มีต้นหนึ่งที่ลูกโต หวานอร่อย เป็นพิเศษ เราไปช่วยลุงเก็บเป็นประจำ และ คุณลุงก็จะแบ่งมาให้ทุกครั้ง.ลุงจะคัดลูกสวยๆ เก็บใส่กล่อง ดูแลเป็นพิเศษเก็บไว้รอลูกๆ อยากให้ลูกได้กินของดีๆ .หลายครั้งหลายหน เราเห็นคุณลุง รอลูกๆ จนมะม่วงเน่าเสียไป ไม่รู้กี่หน ต่อกี่หน
หลายปี มานี้ ก็ไม่เคยเห็นลูกๆ กลับมากินมะม่วงที่พ่อบ่มไว้ด้วยใจรัก แม้แต่ครั้งเดียว
คุณลุงมีที่แปลงหนึ่ง ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ คุณลุงบอกว่าอยากขาย ให้เราช่วยดำเนินการให้หน่อย เราก็เขียนป้ายไปติด แล้วลงประกาศให้ 5 เดือน เศษๆ หลังจากประกาศขาย ในที่ สุดก็มีผู้สนใจ และก็ขายได้ในที่สุด ในราคา 1 ล้านบาท
เมื่อได้เงินมา สิ่งแรกที่คุณลุงพูดถึงคือคิดถึงลูกๆ ถ้ารู้ว่าพ่อขายที่ได้คงดีใจ ลุงบอกว่า จะแบ่งเงินให้ลูกทั้ง 3 คน เท่าๆ กัน
วันรุ่งขึ้น ลุงก็มาหาเราแต่เช้า บอกว่าวันนี้ ขอแรงหน่อย ช่วยพาลุงไปธนาคารที จะไป โอนเงินให้ลูก เราก็พาไป วันนั้นเป็นลูกค้ารายแรกของธนาคารคุณลุงโอนเงิน ให้ลูกคนละ 3 แสนบาท
เมื่อกลับมาจอดรถส่งลุง หน้าบ้านก่อนลงจากรถ คุณลุงหยิบเงิน ในกระเป๋า 1 แสนบาท ยื่นส่งให้ บอกว่า เอานี่ "ลุงให้" เรารีบปฏิเสธ บอกว่า ไม่เป็นไรหรอกครับลุง ไม่ต้องให้ผม ลุงเก็บไว้ใช้เถอะ ให้ลูกๆ ไปเกือบหมดแล้ว ลุงบอกว่า "เอาไปเถอะ" !!!!
ลุงได้รับบำนาญทุกเดือน ไม่ได้เดือดร้อนอะไรที่แปลงนี้ที่ขายได้ ก็เพราะเรา ต้องรับโทรศัพท์ และพาคนไปดูที่ หลายเดือนมานี้ ไม่รู้ขับ รถไป-กลับกี่รอบแล้ว และอีกอย่าง ตลอดเวลาที่ผ่านมา ลุงก็ได้แต่รบกวน ไม่เคยได้ให้อะไร ตอบ แทนบ้างเลย พ่อหนุ่ม ไม่ใช่ลูก ไม่ใช่หลาน แต่ก็ยังอุตส่าห์ เสียเวลา เป็นธุระจัดการเรื่องราวให้ สารพัด รับไว้เถอะ ลุงอยากให้จริงๆ ถ้าไม่รับลุงจะเสียใจนะเราก็ไหว้ ขอบคุณครับลุง
กลับมานอนคิด ไตร่ตรอง รู้สึกไม่สบายใจ ดึกๆ จึงหยิบเงินไปหาลุงอีกรอบแต่ลุงไม่รับคืน และยืนยันว่า ตั้งใจจะให้เราจริง ๆ
อีก 2 วันถัดมา มีรถยนต์ มาจอดที่บ้านลุง ลูกสองคน คนเล็ก และคนกลางมาเยี่ยม และทวงถามเราถึงเงิน 1 แสนบาท พูดจาประมาณว่าเราไปหลอกเอาเงินคนแก่ เรา รีบเข้าไปในบ้าน หยิบเงิน 1 แสน เดินไปที่บ้านลุง แล้วคืนเงินให้ลุง
ลุงปฏิเสธ และพยายามอธิบายให้ลูกๆ ฟัง แต่ทั้งสองคนไม่ยอม เราจึงวางเงินไว้แล้วเดินออกมา ก่อนตะวันตกดิน ได้ยินเสียงรถขับออกไป สักพักลุงก็มาหา เล่าว่าสองคนนั้นแบ่งเงินกันคนละ 5 หมื่นแล้วก็ลากลับไปแล้ว
คุณลุงกล่าวคำขอโทษอย่างที่สุด ลุงน้ำตาไหล บอกว่าเสียใจ ไม่คิดว่าลูกๆ จะเป็นไปถึงขนาดนี้ ลุงบอกว่าจะเอาเงินบำนาญที่ได้รับทุกเดือน มาทยอยคืนให้ จนกว่าจะครบ 1 แสนบาท
เราบอก ว่าไม่เป็นไรหรอกครับลุง ไม่ต้องทำอย่างนั้น
อีก 3 วัน เกือบๆ เที่ยงคืน ลุงมาที่บ้าน พร้อมกับลูกชายคนโตเมื่อ 3 วันที่แล้ว พ่อโทรฯไปเล่าเรื่องให้ฟัง พี่ก็ไม่สบายใจ พอดีที่ทำงานส่งไปสัมมนา หลายวันออกมาไม่ได้ พอเสร็จธุระ ก็รีบขับรถมาเลย มาถึงซะดึก
พี่ต้องขอโทษ แทนน้องๆ สองคนด้วย เสียมารยาทจริงๆ เดี๋ยวต้องคุยกันเป็นเรื่อง เป็นราวสักครั้ง อายุก็มากแล้ว แต่ก็ไม่รู้จักโต แย่จริงๆเอาอย่างนี้ ขอเลขบัญชีธนาคารให้พี่ได้ไหมเดี๋ยวกลับไป พี่จะรีบโอนเงินมาคืนให้ ไม่ต้องหรอกครับ ไม่เป็นไร
เราปฏิเสธไป
วันถัดมาเมื่อลูกชายคนโตกลับไป ลุงเล่าให้ฟังด้วยความดีใจ เจ้าใหญ่มันบอกว่า วาง แผนไว้แล้ว อีก 5 ปี จะย้ายมาทำงานที่บ้าน จะพาลูกมาเมียมาอยู่ที่นี่เราสังเกตุเห็นแววตาอันสด ใสของคุณลุง บ่งบอกถึงความ ปิติ ยินดี อย่างที่สุด ดีใจด้วยครับลุง ต่อไปลุงจะได้ไม่เหงาแล้ว
ตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้ เกือบ 4 ปี แล้วซินะ ที่ลุงนับวันรอ ว่าจะมีลูกๆ กลับมาอยู่ด้วย เราเห็นปฏิทิน ที่คุณลุงขีดฆ่า วันแล้ววันเล่า เดือนแล้วเดือนเล่า ปีแล้วปีเล่า
และ สุดท้าย.. ลุง .. ลุง.. ลุง.. ลุง..
น่าจะอดทนรออีกนิด
อีกนิดเดียวเองครับลุง ความสุขที่ลุงเฝ้าฝันใฝ่หามาตลิดจากลูกชายที่ลุงรักส ุดหัวใจ
ในห้อง ไอซียู เรากับพี่ใหญ่ นั่งอยู่คนละข้างเตียงคนไข้ ช่วงเวลาสุดท้ายของชีว ิต คุณลุงขยับนิ้วมือ เรากับพี่ใหญ่เอื้อมมือไปจับมือลุง ดวงตาค่อยๆ ปิดลงช้าๆ
ชายชราที่เกิดมาเพื่อรอคอย ความอบอุ่นจากบุตร จากไปแล้ว อย่างไม่มีวันหวนกลับมา
*** หลังงานศพ เสร็จสิ้น ค่ำคืนนั้น พี่ใหญ่มาหาเราที่บ้าน ยื่นถุงกระดาษส่งให้
บอกว่า - พ่อฝากไว้ให้ พ่อกำชับไว้ตั้งแต่ก่อนตาย ว่าต้องให้เรารับไว้ ไม่งั้นพ่อจะนอนตายตาไม่หลับ เราแกะถุงเปิดดูข้างใน มีซองจดหมายทั้งหมด 10 ซอง
จ่าหน้าว่า คืนเงิน เดือนที่ 1-2-3ไปจนถึง คืนเงินเดือนที่ 10 ในแต่ละซอง ข้างในมีธนบัตรใบละ 1,000 บาท สิบใบ
ซอง สุดท้าย มีข้อความว่า
-------------------------------
ถึง
หลานที่ไม่ใช่สายเลือด แต่ก็เป็นหลานที่ดีกับลุงเหลือเกิน ลุงคืนเงินให้ตามที่เคยสัญญา
ขอบคุณที่ช่วยเหลือ เป็นธุระให้ ในทุกๆเรื่อง และเป็นเพื่อนคนแก่มาตลอด
ป้ามารอลุงแล้วลุงต้องไปก่อน
-------------------------------
อีก 2 วันถัดมาที่บ้านคุณลุง มีคนเข้ามาทำความสะอาดเราสังเกตุเห็นปฏิทิน ที่คุณลุงใช้ขีดฆ่า เพื่อนับวันรอลูกๆ ถูกทิ้งอยู่ในถังขยะหน้าบ้าน
--- เดินไปที่ถังขยะหน้าบ้านลุง มองไปที่ประตู มีป้ายประกาศติดไว้..ขายบ้านด่วน !!!!! ---
เราไปเก็บปฏิทินมาทำความสะอาด นึกถึงภาพคนแก่ที่หยิบดินสอขีดฆ่าตัวเลข บนปฏิทินด้วยอาการมือสั่นเทา แต่ใจแอบยิ้มเฝ้าฝันวันลูกชายที่รักกลับมาใกล้กาย
ลูกๆ คงไม่รู้หรอกว่า ภายใต้ปฏิทินเก่าๆ ไร้ค่าใบนี้มันซ่อนความห่วงหาอาลัย ซ่อนความเงียบเหงา ว้าเหว่ ซ่อนความเจ็บปวด ร้าวลึก ของคนแก่คนหนึ่ง ที่ต้องใช้ ชีวิต อยู่อย่างโดดเดียว เพียงลำพัง มานานกว่า 10 ปี
ความรู้สึกทั้งหมด คงซึมซับอยู่ในปลายปากกาที่ขีดเขียน ลงไปในแต่ละครั้ง ในบางครั้งเรารอคนที่เรารักเพียง 1 วัน 1 ชั่วโมง 1 นาที ยังทนแทบไม่ได้ อยากเจอ ใจจะขาด ส่วนลุงที่รอมาจาก 365 วัน เป็น 730 วัน เป็น 1095 วัน เป็น 1460 วัน จนวันสุดท้ายของลมหายใจ สภาพจิตใจคงย่ำแย่ เกินกว่าใครคนใดจะรู้ได้ แต่ทำไมทุกครั้งที่เราเจอลุงยังยิ้มได้ตลอดเวลา
เราตั้งใจจะเก็บปฏิทินนี้ไว้ เพื่อเป็นที่ระลึกตลอดไป
*** ขอให้บุญกุศล และคุณงามความดี ทั้งหลายทั้งปวง ที่คุณลุงได้สั่งสมมาตลอดชั่วชีวิต จงนำพาดวงวิญญาณอันบริสุทธิ์ของคุณลุง ไปสู่สุคติ ในดินแดน อันสงบ ร่มเย็น
ชั่วนิรันดร์
รักคุณลุงครับ
Credit : www.pantip.com คนหมุนโลก
===================
เป็นไง ซึ้งกันไม๊ ยังไง ใครที่ยังมี คุณแม่ คุณแม่ อยู่ รีบกลับไปหาท่านกัน ซื้อขนม ผลไม้ อาหารโปรด ไปให้ท่าน กลับไปกอด หอมแก้ม แค่นี้ ท่านคงมีความสุขมาก
อย่าให้ต้องรอถึงวันที่ต้องเคาะโรง เรียกท่านนะ
ความรัก, ซึ้ง ๆ, มูลค่าพ่อราคา 3.5 แสน, สะเทือนอารมณ์, สะเทือนใจ, เรื่องสั้นดี ๆ , เรื่องน่าอ่าน, เรื่องน่าประทับใจ
ผมย้ายมาอยู่ที่นี่ได้หลายปี เพื่อนบ้านก็ดี มีน้ำใจ ข้างบ้านรั้วติด กัน มีคุณลุงคนหนึ่ง เป็นข้าราชการบำนาญ เกษียณมาหลายปีแล้ว ภรรยาเสีย ตั้งแต่เรายังไม่ย้ายเข้ามา ลูกๆ ทั้ง 3 คน
ต่างก็แต่งงาน มีครอบครับ ไปอยู่ที่จังหวัดอื่นๆ กันหมด ลุงแกก็อยู่บ้านคนเดียว มาเกือบ 10 ปี เราได้รู้จักลุง ก็ได้เห็นในน้ำใจไมตรี เป็นคนใจดี อบอุ่น น่ารัก มีโรคประจำตัวตาม ประสาคนแก่
คือเบาหวาน ความดัน และเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ ไปตามปกติ
ด้วยความที่อยู่บ้านคนเดียว บางครั้งเจ็บป่วย ก็ลำบากหน่อย เพราะไม่มีลูกหลาน คอยช่วย เหลือ ช่วงเวลาหลายปี ที่ผ่านมา เราก็ได้มีโอกาสได้ช่วยเหลือ พาไปหาหมอ พาไปทำธุรต่างๆ และถ้า ป่วยหนัก ถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาล ก็จะช่วยโทรตามลูกๆ ของแกให้ ลูกๆ ก็จะมาเยี่ยมบ้าง ไม่มาบ้าง แล้วแต่โอกาส
แต่ !!! เรารู้ว่า คุณลุงเหงา !!!! บ่อยครั้งที่คุณลุงจะบ่นถึงคุณป้า ซึ่งเราไม่เคยเจอตัวจริง ได้เห็นแต่ในรูป เพราะ ท่านเสียไป หลายปีแล้ว ก่อนที่เราจะได้ย้ายมาอยู่ที่นี่
ช่วงเทศกาล ปีใหม่ สงกรานต์ เมื่อบ้านอื่นๆ เขามีลูกๆ มาเยี่ยม เราเห็นคุณลุงนั่งเหงาเพียงลำพัง เราก็ซื้อของขวัญ ของกิน ของใช้ บางครั้งก็เป็นพวก ผลไม้บ้าง เครื่องดื่มบ้าง ไปไหว้ ลุงก็ดีใจ ให้ศิลให้พร กันยกใหญ่ แล้ว!!!
ท่านก็ได้แต่ รำพึง รำพัน ถึงลูกๆ จนน้ำตาไหล ท่านได้แต่เฝ้ารอ นั่งมองแต่ ประตูหน้าบ้าน รอว่าเมื่อไร จะมีรถของลูกๆ กลับมาเยี่ยมบ้างในช่วงเทศกาล .. หลายปีมานี้ คุณลุงก็ได้แต่รอเจอเพียงแต่ความว่างเปล่า ไร้แม้แต่เงาข้างกายของคนที่เรียกลุงว่าพ่อ
เราก็ได้แค่ ปลอบ ว่าลูกๆ เขาคงติดธุระ วันไหนเขาว่าง ก็คงมาเยี่ยม ไม่ต้องคิดมาก เสียสุขภาพไปเปล่าๆ
ที่หลังบ้านคุณลุง มีต้นมะม่วงพันธุ์ดีอยู่หลายต้น มีต้นหนึ่งที่ลูกโต หวานอร่อย เป็นพิเศษ เราไปช่วยลุงเก็บเป็นประจำ และ คุณลุงก็จะแบ่งมาให้ทุกครั้ง.ลุงจะคัดลูกสวยๆ เก็บใส่กล่อง ดูแลเป็นพิเศษเก็บไว้รอลูกๆ อยากให้ลูกได้กินของดีๆ .หลายครั้งหลายหน เราเห็นคุณลุง รอลูกๆ จนมะม่วงเน่าเสียไป ไม่รู้กี่หน ต่อกี่หน
หลายปี มานี้ ก็ไม่เคยเห็นลูกๆ กลับมากินมะม่วงที่พ่อบ่มไว้ด้วยใจรัก แม้แต่ครั้งเดียว
คุณลุงมีที่แปลงหนึ่ง ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ คุณลุงบอกว่าอยากขาย ให้เราช่วยดำเนินการให้หน่อย เราก็เขียนป้ายไปติด แล้วลงประกาศให้ 5 เดือน เศษๆ หลังจากประกาศขาย ในที่ สุดก็มีผู้สนใจ และก็ขายได้ในที่สุด ในราคา 1 ล้านบาท
เมื่อได้เงินมา สิ่งแรกที่คุณลุงพูดถึงคือคิดถึงลูกๆ ถ้ารู้ว่าพ่อขายที่ได้คงดีใจ ลุงบอกว่า จะแบ่งเงินให้ลูกทั้ง 3 คน เท่าๆ กัน
วันรุ่งขึ้น ลุงก็มาหาเราแต่เช้า บอกว่าวันนี้ ขอแรงหน่อย ช่วยพาลุงไปธนาคารที จะไป โอนเงินให้ลูก เราก็พาไป วันนั้นเป็นลูกค้ารายแรกของธนาคารคุณลุงโอนเงิน ให้ลูกคนละ 3 แสนบาท
เมื่อกลับมาจอดรถส่งลุง หน้าบ้านก่อนลงจากรถ คุณลุงหยิบเงิน ในกระเป๋า 1 แสนบาท ยื่นส่งให้ บอกว่า เอานี่ "ลุงให้" เรารีบปฏิเสธ บอกว่า ไม่เป็นไรหรอกครับลุง ไม่ต้องให้ผม ลุงเก็บไว้ใช้เถอะ ให้ลูกๆ ไปเกือบหมดแล้ว ลุงบอกว่า "เอาไปเถอะ" !!!!
ลุงได้รับบำนาญทุกเดือน ไม่ได้เดือดร้อนอะไรที่แปลงนี้ที่ขายได้ ก็เพราะเรา ต้องรับโทรศัพท์ และพาคนไปดูที่ หลายเดือนมานี้ ไม่รู้ขับ รถไป-กลับกี่รอบแล้ว และอีกอย่าง ตลอดเวลาที่ผ่านมา ลุงก็ได้แต่รบกวน ไม่เคยได้ให้อะไร ตอบ แทนบ้างเลย พ่อหนุ่ม ไม่ใช่ลูก ไม่ใช่หลาน แต่ก็ยังอุตส่าห์ เสียเวลา เป็นธุระจัดการเรื่องราวให้ สารพัด รับไว้เถอะ ลุงอยากให้จริงๆ ถ้าไม่รับลุงจะเสียใจนะเราก็ไหว้ ขอบคุณครับลุง
กลับมานอนคิด ไตร่ตรอง รู้สึกไม่สบายใจ ดึกๆ จึงหยิบเงินไปหาลุงอีกรอบแต่ลุงไม่รับคืน และยืนยันว่า ตั้งใจจะให้เราจริง ๆ
อีก 2 วันถัดมา มีรถยนต์ มาจอดที่บ้านลุง ลูกสองคน คนเล็ก และคนกลางมาเยี่ยม และทวงถามเราถึงเงิน 1 แสนบาท พูดจาประมาณว่าเราไปหลอกเอาเงินคนแก่ เรา รีบเข้าไปในบ้าน หยิบเงิน 1 แสน เดินไปที่บ้านลุง แล้วคืนเงินให้ลุง
ลุงปฏิเสธ และพยายามอธิบายให้ลูกๆ ฟัง แต่ทั้งสองคนไม่ยอม เราจึงวางเงินไว้แล้วเดินออกมา ก่อนตะวันตกดิน ได้ยินเสียงรถขับออกไป สักพักลุงก็มาหา เล่าว่าสองคนนั้นแบ่งเงินกันคนละ 5 หมื่นแล้วก็ลากลับไปแล้ว
คุณลุงกล่าวคำขอโทษอย่างที่สุด ลุงน้ำตาไหล บอกว่าเสียใจ ไม่คิดว่าลูกๆ จะเป็นไปถึงขนาดนี้ ลุงบอกว่าจะเอาเงินบำนาญที่ได้รับทุกเดือน มาทยอยคืนให้ จนกว่าจะครบ 1 แสนบาท
เราบอก ว่าไม่เป็นไรหรอกครับลุง ไม่ต้องทำอย่างนั้น
อีก 3 วัน เกือบๆ เที่ยงคืน ลุงมาที่บ้าน พร้อมกับลูกชายคนโตเมื่อ 3 วันที่แล้ว พ่อโทรฯไปเล่าเรื่องให้ฟัง พี่ก็ไม่สบายใจ พอดีที่ทำงานส่งไปสัมมนา หลายวันออกมาไม่ได้ พอเสร็จธุระ ก็รีบขับรถมาเลย มาถึงซะดึก
พี่ต้องขอโทษ แทนน้องๆ สองคนด้วย เสียมารยาทจริงๆ เดี๋ยวต้องคุยกันเป็นเรื่อง เป็นราวสักครั้ง อายุก็มากแล้ว แต่ก็ไม่รู้จักโต แย่จริงๆเอาอย่างนี้ ขอเลขบัญชีธนาคารให้พี่ได้ไหมเดี๋ยวกลับไป พี่จะรีบโอนเงินมาคืนให้ ไม่ต้องหรอกครับ ไม่เป็นไร
เราปฏิเสธไป
วันถัดมาเมื่อลูกชายคนโตกลับไป ลุงเล่าให้ฟังด้วยความดีใจ เจ้าใหญ่มันบอกว่า วาง แผนไว้แล้ว อีก 5 ปี จะย้ายมาทำงานที่บ้าน จะพาลูกมาเมียมาอยู่ที่นี่เราสังเกตุเห็นแววตาอันสด ใสของคุณลุง บ่งบอกถึงความ ปิติ ยินดี อย่างที่สุด ดีใจด้วยครับลุง ต่อไปลุงจะได้ไม่เหงาแล้ว
ตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้ เกือบ 4 ปี แล้วซินะ ที่ลุงนับวันรอ ว่าจะมีลูกๆ กลับมาอยู่ด้วย เราเห็นปฏิทิน ที่คุณลุงขีดฆ่า วันแล้ววันเล่า เดือนแล้วเดือนเล่า ปีแล้วปีเล่า
และ สุดท้าย.. ลุง .. ลุง.. ลุง.. ลุง..
น่าจะอดทนรออีกนิด
อีกนิดเดียวเองครับลุง ความสุขที่ลุงเฝ้าฝันใฝ่หามาตลิดจากลูกชายที่ลุงรักส ุดหัวใจ
ในห้อง ไอซียู เรากับพี่ใหญ่ นั่งอยู่คนละข้างเตียงคนไข้ ช่วงเวลาสุดท้ายของชีว ิต คุณลุงขยับนิ้วมือ เรากับพี่ใหญ่เอื้อมมือไปจับมือลุง ดวงตาค่อยๆ ปิดลงช้าๆ
ชายชราที่เกิดมาเพื่อรอคอย ความอบอุ่นจากบุตร จากไปแล้ว อย่างไม่มีวันหวนกลับมา
*** หลังงานศพ เสร็จสิ้น ค่ำคืนนั้น พี่ใหญ่มาหาเราที่บ้าน ยื่นถุงกระดาษส่งให้
บอกว่า - พ่อฝากไว้ให้ พ่อกำชับไว้ตั้งแต่ก่อนตาย ว่าต้องให้เรารับไว้ ไม่งั้นพ่อจะนอนตายตาไม่หลับ เราแกะถุงเปิดดูข้างใน มีซองจดหมายทั้งหมด 10 ซอง
จ่าหน้าว่า คืนเงิน เดือนที่ 1-2-3ไปจนถึง คืนเงินเดือนที่ 10 ในแต่ละซอง ข้างในมีธนบัตรใบละ 1,000 บาท สิบใบ
ซอง สุดท้าย มีข้อความว่า
-------------------------------
ถึง
หลานที่ไม่ใช่สายเลือด แต่ก็เป็นหลานที่ดีกับลุงเหลือเกิน ลุงคืนเงินให้ตามที่เคยสัญญา
ขอบคุณที่ช่วยเหลือ เป็นธุระให้ ในทุกๆเรื่อง และเป็นเพื่อนคนแก่มาตลอด
ป้ามารอลุงแล้วลุงต้องไปก่อน
-------------------------------
อีก 2 วันถัดมาที่บ้านคุณลุง มีคนเข้ามาทำความสะอาดเราสังเกตุเห็นปฏิทิน ที่คุณลุงใช้ขีดฆ่า เพื่อนับวันรอลูกๆ ถูกทิ้งอยู่ในถังขยะหน้าบ้าน
--- เดินไปที่ถังขยะหน้าบ้านลุง มองไปที่ประตู มีป้ายประกาศติดไว้..ขายบ้านด่วน !!!!! ---
เราไปเก็บปฏิทินมาทำความสะอาด นึกถึงภาพคนแก่ที่หยิบดินสอขีดฆ่าตัวเลข บนปฏิทินด้วยอาการมือสั่นเทา แต่ใจแอบยิ้มเฝ้าฝันวันลูกชายที่รักกลับมาใกล้กาย
ลูกๆ คงไม่รู้หรอกว่า ภายใต้ปฏิทินเก่าๆ ไร้ค่าใบนี้มันซ่อนความห่วงหาอาลัย ซ่อนความเงียบเหงา ว้าเหว่ ซ่อนความเจ็บปวด ร้าวลึก ของคนแก่คนหนึ่ง ที่ต้องใช้ ชีวิต อยู่อย่างโดดเดียว เพียงลำพัง มานานกว่า 10 ปี
ความรู้สึกทั้งหมด คงซึมซับอยู่ในปลายปากกาที่ขีดเขียน ลงไปในแต่ละครั้ง ในบางครั้งเรารอคนที่เรารักเพียง 1 วัน 1 ชั่วโมง 1 นาที ยังทนแทบไม่ได้ อยากเจอ ใจจะขาด ส่วนลุงที่รอมาจาก 365 วัน เป็น 730 วัน เป็น 1095 วัน เป็น 1460 วัน จนวันสุดท้ายของลมหายใจ สภาพจิตใจคงย่ำแย่ เกินกว่าใครคนใดจะรู้ได้ แต่ทำไมทุกครั้งที่เราเจอลุงยังยิ้มได้ตลอดเวลา
เราตั้งใจจะเก็บปฏิทินนี้ไว้ เพื่อเป็นที่ระลึกตลอดไป
*** ขอให้บุญกุศล และคุณงามความดี ทั้งหลายทั้งปวง ที่คุณลุงได้สั่งสมมาตลอดชั่วชีวิต จงนำพาดวงวิญญาณอันบริสุทธิ์ของคุณลุง ไปสู่สุคติ ในดินแดน อันสงบ ร่มเย็น
ชั่วนิรันดร์
รักคุณลุงครับ
Credit : www.pantip.com คนหมุนโลก
===================
เป็นไง ซึ้งกันไม๊ ยังไง ใครที่ยังมี คุณแม่ คุณแม่ อยู่ รีบกลับไปหาท่านกัน ซื้อขนม ผลไม้ อาหารโปรด ไปให้ท่าน กลับไปกอด หอมแก้ม แค่นี้ ท่านคงมีความสุขมาก
อย่าให้ต้องรอถึงวันที่ต้องเคาะโรง เรียกท่านนะ
ความรัก, ซึ้ง ๆ, มูลค่าพ่อราคา 3.5 แสน, สะเทือนอารมณ์, สะเทือนใจ, เรื่องสั้นดี ๆ , เรื่องน่าอ่าน, เรื่องน่าประทับใจ
ป้ายกำกับ:
ความรัก,
ซึ้ง ๆ,
มูลค่าพ่อราคา 3.5 แสน,
เรื่องสั้น,
สะเทือนใจ,
สะเทือนอารมณ์
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)